ไม่ยอมไมได้ว่าการโพสต์ภาพถ่ายออนไลน์นั่นเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคสมาร์ทโฟนครองเมืองในงานสัมมนา D11
เพราะซึ่งจัดเพราะสำนักข่าว The Wall Street Journal ได้มีการเปิดแสดงตนรายงานแนวโน้มอินเทอร์เน็ตประจำปี 2013 (Internet Trends Report 2013) ที่ได้จัดทำเพราะ Mary Meeker ด้วยกัน Liang Wu จาก Kleiner Perkins Caufield Byers (KPCB) ว่า ช่วงปีที่ทะลุมานั้นมีภาพถ่ายได้รับการแบ่งปันบนโลกออนไลน์เพราะว่าเฉลี่ยมากถึง 500 ล้านภาพต่อวัน ด้วยกันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่แน่นอนผู้ที่นำเทรนด์นี้ก็หนีไม่พ้น Facebook ซึ่งยังครองส่วนแบ่งการใช้งานมากที่สุดนั้นตามมาด้วย Instagram แอพพลิเคชั่นแชร์ภาพที่ทุกคนรู้จักกันดีแต่เป็นที่น่าสนใจคือ ผู้ที่มาเป็นอันดับสามกลับเป็นแอพฯ น้องใหม่ซึ่งยังอาจไม่เป็นที่รู้จักมากนักนั่นคือ Snapchat
ในโลกออนไลน์ยุคใหม่ ยิ่งแชร์ยิ่งเสี่ยง!
เพราะว่าการมีปฏิสัมพันธ์บนโลกออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครหลายคนไปเสียแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุใด แน่นอนว่ามันเชี่ยวชาญจะทำให้เรารับทราบความเป็นไปของเพื่อนฝูง คนที่เราแอบชอบนั้นหรือเพจของแบรนด์ที่เราเป็นลูกค้าขาประจำ ขณะเดียวกันความรวดเร็วพร้อมด้วยความเชี่ยวชาญในการโต้ตอบกลับได้ทันทีนั้นของมันก็เชื้อเชิญให้เราแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวมากยิ่งกว่า ไม่ว่าจะด้วยการการโพสต์สถานะบอกให้ทราบเล่าสิ่งที่ตนพบเจอประจำวันในการเช็กอินสถานที่ที่เราไปเยี่ยมเยียน หรือไม่ก็การโพสต์ภาพพร้อมทั้งวิดีโอนั้นจึงทำให้เครือข่ายสังคมออนไลน์กลายเป็นเหมือนกับไดอารี่บันทึกเรื่องราวในแต่ละวันด้วยว่าใครหลายคน
เพราะว่ามีผู้เปรียบสื่อสังคมออนไลน์ยุคใหม่ว่าเป็นเหมือนกับ สมุดบันทึกส่วนตัวที่วางอยู่บนทางเท้า ที่แน่นอนว่าเจ้าของมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะบันทึกเรื่องราวใดๆก็ไดลงไป แต่ด้วยเหตุที่มันวางอยู่บนพื้นที่สาธารณะกับก็อาจเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่หวังดีเข้ามาเปิดอ่านหรือไม่เหยียบย่ำได้ทุกครั้ง ความเป็นแน่ๆดังกล่าวเป็นได้พบเห็นได้ทั่วไปนั้นไม่ว่าจักเป็นกรณีคลิปใช่ไหมภาพหลุดคนดังที่แม้ว่าเจ้าตัวจะอ้างว่าโพสต์เล่นๆ ดูในหมู่เพื่อนฝูง แต่ก็ไม่วายถูกมือดีนำไปพูดแพร่ต่อ หรือว่าจะเป็นกรณีพนักงานบริษัทต้องถูกไล่ออกเพราะไปโพสต์ความในใจด่าใครในที่ทำงานเข้า รวมทั้งกรณี ดราม่า ทั้งหลายที่มีให้อ่านแก้เซ็งได้ทุกวันพร้อมด้วยปรากฏการณ์เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นมาจากธรรมชาติของเครือข่ายสังคมไลน์ส่วนใหญ่ ที่มักจักบันทึกเนื้อหาที่ผู้ใช้โพสต์ไว้บนเซิร์ฟเวอร์ในลักษณะกึ่งถาวรเพื่อให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตเข้าไปมาเสพได้ตลอดเวลานั้นความยิ่งอันน่าเจ็บปวดจึงเกิดขึ้น ปางเราต้องการแบ่งปันเนื้อหาให้กับเพื่อนฝูง แต่ขณะนั้นเดียวกันก็ไม่ต้องการให้เนื้อหาทั้งหลายอยู่บนโลกออนไลน์อย่างถาวรรอใครที่หมั่นไส้มาใช้แบล็กเมล์
Snapchat แชร์ปุ๊บหายปั๊บ ค่าทองคำแท่ง
โดย Snapchat บังคับให้ผู้ส่งต้องตั้งเวลาก่อนที่จะส่งภาพไปยังผู้รับ จนกระทั่งเปิดดูเวลาก็จะนับถอยหลังก่อนที่ภาพจะหายไปอย่างถาวร ค่าทอง
Snapchat นั้นคือแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน iPhone ด้วยกัน Android ที่รับการพัฒนาเพราะว่าอาศัยหลักการที่สวนทางกับเครือข่ายสังคมออนไลน์แทบจักทั้งหมด เพราะแทนที่ตัวแอพฯ จักบันทึกเนื้อหาที่เราแชร์กับเพื่อนบน Dashboard ด้วยเพื่อให้ดูได้ภายหลัง แต่กลับให้เราถ่ายภาพไม่ใช่หรือวิดีโอพร้อมกับเเลื่องลือกระยะเวลาที่ต้องการให้เนื้อหาดังกล่าวคงอยู่หลังจากที่เพื่อนเปิดดูแล้วนั้น (ตั้งได้มากสุดไม่เกิน 10 วินาที) ก่อนที่จะหายไปตลอดกาลด้วย ไม่ได้ถูกเก็บไว้ในเครื่อง ในคลาวด์ หรือไม่ก็หน่วยความจำใดๆ ทั้งสิ้น เชื่อไม่ก็ไม่ว่าหลักการง่ายๆนั้น แทบเท่านี้ก็ทำให้ Evan Spiegel กับ Bobby Murphy สองผู้ก่อตั้งได้รับเงินลงทุนครั้งล่าสุดได้มากถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ แสดงให้เห็นถึงอนาคตอันสดใสของท่ามกลางกระแสแอพฯ แชร์ภาพพร้อมทั้งวิดีโอใหม่ๆ ที่ออกมาให้เราเห็นแทบทุกอาทิตย์
แน่นอนว่าด้วยความที่ภาพพร้อมทั้งวิดีโอที่เราแชร์จะหายไปตลาดกาลนั้น แอพฯ ตัวนี้ย่อมเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มวัยรุ่นตะวันตกนั้นที่นิยมแบ่งปันเนื้อหาลักษณะ Sexting หรือไม่ก็ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ แต่ด้วยความที่ Snapchat ได้กล่าวว่า มีผู้ใช้บริการของตนแชร์ภาพมากถึง 150 ล้านภาพต่อวัน เราคงไม่อาจเหมารวมได้ว่าบริการนี้เป็นแหล่งซ่องสุมของวัยรุ่นนั้นกลัดมันอย่างเดียว กับด้วยความนิยมเช่นนี้เองที่ทำให้ Mark Zuckerberg นั้นต้องใจเต้นเป็นเจ้าเข้าถึงกับต้อง ปลดเปลื้องแอพฯ Poke ที่มีหลักการทำงานคล้ายกันออกมาด้วยกันด้วยความที่แชร์แล้วหาย Snapchat จึงมักถูกวัยรุ่นนำมาใช้แชร์ภาพที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเพศ
ถึงหิวแชร์ แต่ก็ต้องการความเป็นส่วนตัว
ค่าทองคำวันนี้
เป็นความจริงๆที่ว่ายิ่งเราแบ่งปันเนื้อหาของตัวเราเองมากเท่าใด ความเป็นส่วนตัวของเราก็มีแนวโน้มน้อยลงเท่านั้น Snapchat จึงเป็นเหมือนกับแอพฯ ในฝันที่เปิดโอกาสให้เราแชร์ภาพถ่ายไม่ใช่หรือวิดีโออะไรก็ได้ในหมู่เพื่อนฝูงนั้นเพราะว่าไม่ต้องกลัวตกเป็นข่าวหน้าหนึ่ง นอกจากนี้ความเปิดกว้างของโลกออนไลน์ยังบีบบังคับให้เรานั้นต้องคิดก่อนทำหลายตลบ ไม่เว้นแม้แต่การโพสต์ภาพถ่ายของตนเองที่หลายคนต้องนำไปพ้นกระบวนการแต่งหน้าในแอพพลิเคชั่นด้วย ทันทีที่ทุกคนในโลกออนไลน์ต่างมุ่งนำเสนอภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูดีเช่นนี้โลกเสมือนจึงยังแตกต่างจากโลกแห่งความเป็นนักอยู่วันยังค่ำ ด้วยและนับวันก็ยิ่งไม่น่าเชื่อถือขึ้นทุกที ฮา!) แต่แอพฯ นี้เชี่ยวชาญทลายข้อจำกัดดังกล่าวด้วยการให้เราแชร์กับผู้ที่เราต้องการเพราะตรงนั้นได้ไม่ว่าภาพหรือไม่ก็วิดีโอจะดูแย่หรือไม่ก็เป็นโมเมนต์ที่น่าอับอายมากขนาดไหน
กับที่สำคัญคือ Snapchat ยังเอื้อให้เกิดการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติมากกว่า เพราะการสื่อสารด้วยคำพูด โดยเฉพาะการทักทายนั้น ย่อมทำเกิดขึ้นแล้วหมดไปภายในระยะเวลาอันสั้น คงมีน้อยคนที่ต้องการทราบถึงยอดตอบกลับของทวีตสวัสดีตอนเช้าของตนตราบปีที่แล้ว ไม่ก็พูดง่ายๆ ก็คือ การสื่อสารในบางกรณีก็ไม่ต้องการการบันทึกไว้นั้นเป็นลายลักษณ์อักษร อาจจะด้วยวัตถุประสงค์ของผู้ส่งสาร ใช่ไหมด้วยความไม่เหมาะสมของภาวะแวดล้อมที่ไม่มีความเป็นส่วนตัวมากพอนั้น Snapchat จึงเป็นแอพฯ ทางเเอิกเกริกกที่น่าสนใจนั้นเพราะผู้ที่ต้องประสงค์แชร์แต่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่เครื่องมือกระแสหลักอาจมอบให้ด้วย
ค่าทองย้อนหลังที่นี้ http://moneygold11.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น